บริการออกแบบ ติดตั้ง และซ่อมบำรุง

ระบบโซลาร์เซลล์ครบวงจร

บริษัท ไวส์ เอเนอร์จี โซลูชัน จำกัด มีบริการด้านการออกแบบ ติดตั้ง ซ่อมบำรุง พร้อมทั้งหานายทุน Private PPA หรือสินเชื่อให้กับลูกค้าครบวงจรในที่เดียว

ทำไมต้องติดโซลาร์เซลล์กับ Wise Energy

บริษัท ไวส์ เอเนอร์จี โซลูชัน จำกัด เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการให้บริการด้านพลังงานทดแทนที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ด้วยทีมช่างวิศวกรที่มีประสบการณ์อันยาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งได้รับการฝึกอบรมด้านโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะทำให้เราสามารถรับมือกับงานในทุกสถานการณ์ได้อย่างมืออาชีพ ทั้งงานติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop), บนพื้นดิน (Solar farm), บนน้ำ (Solar Floating) และโรงจอดรถ (Solar Carport)

นอกจากนี้ Wise Energy ยังมีพันธมิตร Private PPA จากไต้หวันและยุโรปที่พร้อมออกทุนค่าติดตั้งโซลาร์เซลล์หลักสิบล้านบาทโดยที่ลูกค้าไม่ต้องลงทุนเองซักบาท และยังมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำด้านพลังงานสะอาดจากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่พร้อมบริการให้ลูกค้าอีกทางหนึ่งเช่นกัน

บริการของบริษัท

Solar โซลาร์ โซล่า ฟาร์ม wise energy
บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์
(EPC)
Solar โซลาร์ โซล่า ฟาร์ม wise energy private ppa
หานายทุนติดโซลาร์เซลล์ฟรี
(Private PPA)
clean Solar โซลาร์ โซล่า ฟาร์ม wise energy o&m
ดูแลและบำรุงรักษาโซลาร์เซลล์
(O&M)

ขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจให้เราดูเเล

ไขข้อสงสัยเรื่องโซลาร์เซลล์

ระบบโซลาร์เซลล์แบบ On-grid คืออะไร

ระบบโซลาร์เซลล์แบบออนกริด (On-Grid Solar System) คือระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าสาธารณะ (Grid) การทำงานของระบบนี้เริ่มจากแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels) ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากนั้นไฟฟ้ากระแสตรงจะถูกแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่สามารถใช้งานในบ้านเรือนหรือธุรกิจได้ผ่านอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ข้อดีของระบบนี้คือสามารถใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้ทันที และสามารถส่งไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้แต่ไม่ได้ใช้กลับไปยังโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อรับเครดิตหรือรายได้จากบริษัทไฟฟ้า

ระบบโซลาร์เซลล์แบบออนกริดไม่มีแบตเตอรี่สำรองเก็บพลังงานไฟฟ้า ดังนั้นในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์ เช่น กลางคืน หรือในวันที่มีเมฆมาก ผู้ใช้ยังคงต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากโครงข่ายไฟฟ้าสาธารณะ ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าไฟฟ้าและช่วยลดการใช้พลังงานจากแหล่งที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีต้นทุนการติดตั้งที่ต่ำกว่าระบบที่มีแบตเตอรี่สำรอง

ระบบโซลาร์เซลล์มี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ระบบออนกริด (On-Grid), ระบบออฟกริด (Off-Grid) และระบบไฮบริด (Hybrid) ซึ่งแต่ละระบบมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้:

  1. ระบบโซลาร์เซลล์แบบออนกริด (On-Grid):

    • ระบบนี้เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าสาธารณะ การทำงานของระบบเริ่มจากแผงโซลาร์เซลล์ที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) แล้วแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ผ่านอินเวอร์เตอร์ ไฟฟ้าที่ผลิตได้สามารถใช้งานได้ทันที และไฟฟ้าส่วนเกินจะถูกส่งกลับไปยังโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรับเครดิตหรือรายได้จากบริษัทไฟฟ้า
    • ข้อดี: ต้นทุนการติดตั้งต่ำ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่สำรอง เหมาะสำหรับลดค่าไฟฟ้า
    • ข้อเสีย: ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ในช่วงที่ไม่มีแสงอาทิตย์และไฟฟ้าจากโครงข่ายขาดหาย
  2. ระบบโซลาร์เซลล์แบบออฟกริด (Off-Grid):

    • ระบบนี้ทำงานอย่างอิสระจากโครงข่ายไฟฟ้าสาธารณะ โดยใช้แบตเตอรี่สำรองในการเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแสงอาทิตย์ เพื่อให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในช่วงที่ไม่มีแสงอาทิตย์ ระบบนี้ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ แบตเตอรี่ และตัวควบคุมการชาร์จ (Charge Controller)
    • ข้อดี: ไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าสาธารณะ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง
    • ข้อเสีย: ต้นทุนการติดตั้งสูงกว่าเนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
  3. ระบบโซลาร์เซลล์แบบไฮบริด (Hybrid):

    • ระบบนี้ผสมผสานคุณสมบัติของทั้งระบบออนกริดและออฟกริด โดยเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าสาธารณะและมีแบตเตอรี่สำรอง ระบบจะใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแสงอาทิตย์ในช่วงที่มีแสง และเก็บไฟฟ้าส่วนเกินในแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่เต็มจะส่งไฟฟ้าส่วนเกินกลับไปยังโครงข่ายไฟฟ้า ในช่วงที่ไม่มีแสงอาทิตย์ ระบบจะใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่และสามารถใช้ไฟฟ้าจากโครงข่ายไฟฟ้าได้หากจำเป็น
    • ข้อดี: มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ไฟฟ้าได้ตลอดเวลา ลดการพึ่งพาโครงข่ายไฟฟ้าสาธารณะและยังสามารถส่งไฟฟ้าส่วนเกินกลับไปยังโครงข่ายได้
    • ข้อเสีย: ต้นทุนการติดตั้งสูงกว่าระบบออนกริดเนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

ระยะเวลาคืนทุนของระบบโซลาร์เซลล์แบบออนกริด (On-Grid) ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของระบบ ราคาอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง อัตราค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ และนโยบายของรัฐที่เกี่ยวข้อง (BOI) โดยทั่วไป ระยะเวลาคืนทุนของระบบออนกริดมักจะอยู่ในช่วง 3-6 ปี ซึ่งเมื่อเทียบกับอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์ที่รับประกันสูงถึง 25-30 ปี ทำให้การลงทุในโซลาร์เซลล์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างมาก

โดยปกติแล้วผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์จะมีการรับประกันงานติดตั้ง 2-5 ปีเป็นอย่างน้อยเพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าระบบโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้จริงและเข้าใจวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 

  • การทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์:

    • แผงโซลาร์เซลล์ควรทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อขจัดฝุ่น, ใบไม้, หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่อาจทำให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าลดลง ควรใช้น้ำและแปรงนุ่มหรือผ้าสะอาดในการทำความสะอาด
  • การตรวจสอบและบำรุงรักษาอินเวอร์เตอร์:

    • อินเวอร์เตอร์เป็นส่วนสำคัญในการแปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง (DC) เป็นกระแสสลับ (AC) ควรตรวจสอบการทำงานของอินเวอร์เตอร์เป็นประจำ เช่น การตรวจสอบไฟแสดงสถานะและการบันทึกข้อมูลการผลิตไฟฟ้า
  • การตรวจสอบสายไฟและการเชื่อมต่อ:

    • ตรวจสอบสายไฟและการเชื่อมต่อในระบบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสายไฟที่หลวม, ชำรุด หรือมีการเชื่อมต่อที่ไม่แน่น ควรทำการตรวจสอบอย่างน้อยปีละครั้ง
  • การตรวจสอบโครงสร้างและฐานยึดแผงโซลาร์เซลล์:

    • ตรวจสอบโครงสร้างและฐานยึดแผงโซลาร์เซลล์เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการสึกกร่อน, ชำรุด, หรือคลายตัว โดยเฉพาะหลังจากพายุหรือสภาพอากาศที่รุนแรง
  • การอัพเดทซอฟต์แวร์และเฟิร์มแวร์:

    • หากอินเวอร์เตอร์หรืออุปกรณ์ควบคุมมีการใช้งานซอฟต์แวร์หรือเฟิร์มแวร์ ควรอัพเดทให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

โดยหลังจากหมดประกันงานติดตั้งแล้ว เราแนะนำให้ผู้ซื้อมีการจ้างบริษัทมาทำความสะอาดแผงและเชคระบบโซลาร์เซลล์อย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี

แม้ว่าในอนาคตอาจมีแนวโน้มที่ราคาแผงโซลาร์เซลล์จะลดลง 10-50% แต่ความคุ้มค่าของการติดตั้งในตอนนี้จะเห็นได้ทันที เนื่องจากผู้ซื้อสามารถลดค่าไฟได้ทันทีและสามารถคืนทุนได้ภายใน 3-5 ปีและใช้ไฟฟรีไป 20-25 ปี แม้ว่าในอนาคตจะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม แต่การรอให้ถึงจุดนั้นอาจไม่คุ้มค่าเท่ากับการติดตั้งในตอนนี้ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นตั้งแต่เริ่ม ดังนั้น เราเห็นว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์
 
ยกตัวอย่างเช่น ขนาดติดตั้ง 100 kW ราคาติดตั้งประมาณ 2.1 ล้านบาท ประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน หรือ 600,000 บาทต่อปี  ในขณะที่ถ้ารอไปอีก 1 ปี ราคาติดตั้งอาจลดลงไป 20% หรือ 420,000 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วค่าไฟที่ประหยัดได้ยังมากกว่าราคาที่ลดลงเมื่อรอไป 1 ปี

สำหรับการติดตั้งขนาดเล็ก รัฐบาลมีโครงการโซลาร์ภาคประชาชน ที่สนับสนุนให้ครัวเรือนติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) ขนาด 5-10 kW โดยการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากการผลิตในอัตรา 2.2 บาทต่อหน่วยเป็นระยะเวลา 10 ปี

 

แต่สำหรับภาคธุรกิจที่มีการใช้ไฟมาก รัฐบาลมีการสนับสนุนในเรื่องการนำค่าติดตั้งมาลดหย่อนภาษีได้สำหรับธุรกิจที่มี BOI นอกจากนี้ยังมีนโยบายการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับการลงทุนในพลังงานสะอาดจากธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง

 

และหากบริษัทไหนที่ไม่ต้องการลงทุนเอง ก็จะมีบริษัทเอกชนบางแห่งที่รับทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Private PPA) ที่จะติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ฟรีพร้อมขายไฟฟ้าจากโซลาร์ในราคาส่วนลด 10-50% โดยที่หลังจากหมดอายุสัญญา 8-15 ปีแล้ว บริษัทนายทุนจะยกระบบโซลาร์เซลล์ให้บริษัทฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ข่าวสารเเละบทความน่าสนใจ

ความรู้โซลาร์เซลล์