Net Metering กับ Gross Metering และ Net Billing: ระบบใดดีกว่ากัน?

solar cell net metering net billing gross billing wise energy

Net Metering

ความหมาย:
Net Metering เป็นระบบการคิดค่าไฟที่ช่วยให้เจ้าของแผงโซลาร์เซลล์สามารถส่งไฟฟ้าที่ผลิตเกินความต้องการกลับเข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้า เพื่อเก็บเครดิตไฟฟ้าไว้ชดเชยค่าไฟฟ้าในอนาคต

วิธีการทำงาน:
แผงโซลาร์เซลล์จะผลิตไฟฟ้าตลอดทั้งวัน ไฟฟ้าที่ผลิตเกินจากการใช้งานจริงจะถูกส่งกลับเข้าสู่โครงข่ายโดยอัตโนมัติ ผ่านมิเตอร์สองทิศทางที่บันทึกทั้งพลังงานที่นำเข้าจากโครงข่ายและพลังงานที่ส่งกลับเข้าสู่โครงข่าย

ข้อดี:

  • ประหยัดค่าไฟ: สามารถสะสมเครดิตสำหรับไฟฟ้าส่วนเกิน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในอนาคต
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนโดยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์
  • ความง่ายในการใช้งาน: ใช้มิเตอร์ตัวเดียวในการวัดการไหลของพลังงาน

ข้อเสีย:

  • ข้อจำกัดทางนโยบาย: บางครั้งนโยบายและกฎเกณฑ์ท้องถิ่นอาจทำให้ระบบนี้ไม่สามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่
  • ประโยชน์ที่จำกัด: ในบางภูมิภาค เครดิตจากไฟฟ้าส่วนเกินไม่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้เต็มจำนวน

ตัวอย่างประเทศที่ใช้:

  • สหรัฐอเมริกา: หลายรัฐ เช่น แคลิฟอร์เนีย และนิวยอร์ก ใช้ระบบ Net Metering สำหรับผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดเล็ก
  • แคนาดา: บางมณฑลในแคนาดา เช่น ออนแทรีโอ มีนโยบาย Net Metering สำหรับครัวเรือนและธุรกิจขนาดเล็ก
  • อินเดีย: หลายรัฐในอินเดีย เช่น เดลี และกรณาฏกะ ใช้ระบบนี้เพื่อส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน

Gross Metering

ความหมาย:
Gross Metering เป็นระบบที่เจ้าของแผงโซลาร์เซลล์ขายไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ให้กับโครงข่าย โดยไม่คำนึงถึงการใช้ไฟฟ้าของตนเอง

วิธีการทำงาน:
ไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์จะถูกส่งไปยังโครงข่าย และเจ้าของจะได้รับค่าตอบแทนตามอัตราค่าป้อนไฟฟ้า (Feed-in Tariff) ที่ตกลงกันไว้

ข้อดี:

  • รายได้ที่แน่นอน: ได้รับค่าตอบแทนจากไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิต ทำให้มีรายได้ที่มั่นคง

ข้อเสีย:

  • ใช้พลังงานเองได้น้อย: คุณอาจพลาดโอกาสในการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากโซลาร์เซลล์เพื่อลดค่าไฟของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าสูงขึ้น

ตัวอย่างประเทศที่ใช้:

  • เยอรมนี: หนึ่งในประเทศแรกๆ ที่นำระบบ Feed-in Tariff มาใช้ จ่ายค่าตอบแทนสูงสำหรับไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
  • ออสเตรเลีย: รัฐควีนส์แลนด์ และบางรัฐอื่นๆ ใช้ระบบนี้สำหรับการขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เข้าสู่โครงข่าย
  • ฝรั่งเศส: มีนโยบาย Feed-in Tariff สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์

Net Billing

ความหมาย:
Net Billing เป็นการผสมผสานระหว่าง Net Metering และ Gross Metering โดยเจ้าของสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินให้กับโครงข่าย และยังคงใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้ตามความต้องการของตัวเอง

วิธีการทำงาน:
เจ้าของแผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้ไฟฟ้าได้เอง และหากมีไฟฟ้าเหลือ ก็สามารถส่งกลับไปยังโครงข่ายและเก็บเครดิตในอัตราที่กำหนดไว้

ข้อดี:

  • ใช้งานไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ: เจ้าของสามารถใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้า และยังได้ประโยชน์จากการขายไฟฟ้าส่วนเกิน

ข้อเสีย:

  • ความซับซ้อนในการคิดค่าไฟ: อาจต้องพิจารณาเรื่องอัตราค่าขายไฟฟ้าส่วนเกินที่ต่ำกว่าอัตราซื้อจากโครงข่าย ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับผลตอบแทนเต็มที่

ตัวอย่างประเทศที่ใช้:

  • ประเทศไทย: ปัจจุบันประเทศไทยใช้ระบบ Net Billing สำหรับผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดเล็ก โดยเฉพาะครัวเรือนและธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับเข้าสู่โครงข่ายได้ในราคาที่กำหนด
  • ชิลี: ชิลีใช้ระบบ Net Billing สำหรับผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดเล็กและกลาง โดยอนุญาตให้ผู้ใช้งานขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าสู่โครงข่ายได้
  • เม็กซิโก: มีการใช้ระบบ Net Billing ซึ่งผู้ใช้งานสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับเข้าสู่โครงข่าย แต่จะมีอัตราค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าค่าไฟที่ซื้อจากโครงข่าย

การวิเคราะห์เรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน

เมื่อพูดถึงความคุ้มค่าในการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ระบบที่ใช้ในการจัดการพลังงานอย่าง Net Metering, Gross Metering, และ Net Billing ล้วนมีผลต่อการคืนทุนและผลตอบแทนในระยะยาว เนื่องจากแต่ละระบบมีโครงสร้างในการชดเชยไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ความคุ้มค่าในการลงทุนจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น นโยบายรัฐ อัตราค่าไฟฟ้า การใช้งานไฟฟ้าในบ้านหรือธุรกิจ และอัตราการผลิตพลังงานจากแผงโซลาร์

  • Net Metering มักจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากในประเทศที่มีการส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ๆ เพราะระบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บเครดิตไฟฟ้าส่วนเกินเพื่อใช้ลดค่าไฟฟ้าในอนาคต ส่งผลให้การคืนทุนของการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ความคุ้มค่าจะขึ้นอยู่กับนโยบายในแต่ละพื้นที่ที่ใช้ Net Metering ว่าจะให้เครดิตในอัตราที่คุ้มค่าหรือไม่
  • Gross Metering แม้จะมีรายได้ที่คาดเดาได้จากการขายไฟฟ้าทั้งหมดเข้าสู่โครงข่าย แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เพื่อลดค่าไฟในบ้านหรือธุรกิจของตนเอง จึงอาจทำให้เกิดความไม่คุ้มค่าในบางสถานการณ์
  • Net Billing ให้ทางเลือกที่ยืดหยุ่นกว่า โดยสามารถใช้พลังงานที่ผลิตได้เอง และขายไฟฟ้าส่วนเกินที่เหลือให้กับโครงข่าย แม้ว่าอัตราการชดเชยมักจะต่ำกว่า Net Metering แต่ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ให้คุ้มค่ามากที่สุด

เหตุผลที่รัฐบาลบางประเทศเริ่มไม่สนับสนุน Net Metering

ในประเทศที่มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เป็นจำนวนมาก เช่น เยอรมนี และ สหรัฐอเมริกา (บางรัฐ) รัฐบาลเริ่มลดการสนับสนุนระบบ Net Metering และหันมาใช้ระบบอื่นๆ เช่น Net Billing หรือ Gross Metering แทน เหตุผลหลักมาจากความกังวลเรื่องการผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็น ซึ่งอาจสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้าและระบบการจัดการพลังงานในระดับประเทศ

  • ระบบโครงข่ายไฟฟ้า อาจเผชิญความเสี่ยงเมื่อมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างแสงอาทิตย์มากเกินไป ทำให้เกิดไฟฟ้าล้นโครงข่าย (grid overload) ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสถียรของระบบ ดังนั้น รัฐบาลในบางประเทศเริ่มลดแรงจูงใจสำหรับ Net Metering เพื่อควบคุมการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในระดับที่เหมาะสม
  • ใน ประเทศที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์เยอะแล้ว การส่งเสริม Net Metering ต่อไปอาจทำให้ประชาชนติดตั้งเกินความจำเป็น ทำให้เกิดผลเสียต่อโครงข่ายไฟฟ้า ในกรณีนี้ ระบบ Net Billing หรือ Gross Metering จะช่วยสร้างสมดุลระหว่างการผลิตและการใช้ไฟฟ้า ทำให้โครงข่ายไฟฟ้าสามารถรับมือกับพลังงานหมุนเวียนได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม Net Metering ยังคงเป็นระบบที่เหมาะสมมากสำหรับ ประเทศที่ต้องการกระตุ้นให้ประชาชนติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น เช่น ประเทศไทย ที่เพิ่งเริ่มส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในระดับครัวเรือน การใช้ Net Metering จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนลงทุนในโซลาร์เซลล์มากขึ้น เพราะระบบนี้ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว ทำให้การคืนทุนจากการติดตั้งเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานแสงอาทิตย์ แต่การส่งเสริมให้ติดตั้งโซลาร์ผ่านระบบ Net Metering ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีและเป็นมิตรกับโลกครับ นอกจากจะช่วยลดค่าไฟแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอีกด้วย ยิ่งในปัจจุบันเทคโนโลยี Energy Storage System (ESS) ก็กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเก็บพลังงานส่วนเกินใช้งานได้ดีขึ้นไปอีก การเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2065 ของไทยจึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม เราทุกคนสามารถเริ่มต้นเปลี่ยนโลกได้ตั้งแต่วันนี้เลยครับ

credit: https://freyrenergy.com/net-metering-vs-gross-metering-vs-net-billing-is-one-better-than-the-others/